หลังจากได้อ่านข้อที่ 1 ถึง 5 แล้วใน ตอนที่ 1 มาพบกับข้อที่ 6 ถึง 9 ในตอนที่ 2 นี้ได้เลย
6. รับวิตามิน “I”
ตัว “I” หมายถึง intensity ซึ่งมีความหมายว่า ความเข้มข้น ถ้าคุณชอบเดิน แต่คุณเดินเล่นช้าเหมือนหอยทากคลาน มันคงช่วยอะไรได้ไม่มากนัก ลองแทนที่ด้วยการใส่ วิตามิน “I” หรือ intensity เข้าไปในก้าวย่างของคุณ เดินให้เร็วขึ้นเป็น 4 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 1 ไมล์ต่อ 15 นาที ซึ่งมันจะเป็นผลดีกับระบบหลอดเลือดและหัวใจของคุณแน่นอน คุณสามารถทำสลับกันระหว่างเดินกับวิ่งจ็อกกิ้ง กุญแจสำคัญคือ การเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการค้นหาความท้าทายในการออกกำลังกายของคุณ
7. ทานโยเกิร์ตซะบ้าง
มีการศึกษาจาก International Journal of Obesity ในปี 2007 พบว่า ผู้หญิงผู้ที่รับประทานโยเกิร์ตไขมันต่ำ 3 ครั้งต่อวัน สามารถลดไขมันได้มากกว่าผู้หญิงที่ไม่ทานเลย 60 เปอร์เซ็นต์ และอีกหนึ่งการศึกษา ผู้เข้าร่วมทดสอบที่ทานโยเกิร์ต 3 ครั้งต่อวันนอกจากจะสามารถลดไขมันได้แล้วในโยเกิร์ตยังอุดมณ์ไปด้วย แคลเซียม ลดเอนไซม์ที่ผลิตไขมัน และเพิ่มเอนไซม์ที่ย่อยไขมัน ถ้าคุณเบื่อโยเกิร์ตก็คุณก็สามารถเปลี่ยนเป็นนมหรือเนยแข็งก็ได้
8. ขยับสักนิดหลังทานข้าวเสร็จ
อัตราการเผาผลาญอาหารในร่างกายของคุณจะเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นหลังจากคุณรับประทานอาหาร และเพียงแค่ทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ไม่กี่นาที ก็สามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญขึ้นสองเท่าเป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมง ภายใน 15 ถึง 30 นาทีของการรับประทานอาหาร ให้คุณทำกิจกรรมเบาๆ สัก 5 ถึง 10 นาที เช่นพาหมาไปเดินเล่น, เดินขึ้นชั้นบน หรือออกกำลังกายแบบฝึกล้ามเนื้อเบาๆ
9. จิบชาเขียว
คุณอาจจะชอบดื่มลาเต้ แต่ถ้าลองเปลี่ยนเป็นชาเขียวดู ไม่เพียงแต่คุณได้รับสารอาหารในการต่อกรกับโรคต่างๆ คุณยังสามารถลดไขมันในร่างกายได้ด้วย ในการศึกษาจาก American Journal of Clinical Nutrition พบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวสกัดวันละ 1 ขวดทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน สามารถลดไขมันในร่างกายได้มากกว่าผู้ที่ดื่มชาดำ และนักวิจัยจากโตเกียวเชื่อว่า สารต้านอนุมูลอิสระที่ต่อสู้กับโรคต่างๆ ที่เรียกว่า catechins ที่อยู่ในชาเขียวอาจจะช่วยทำให้ไขมันในร่างกายลดลงได้
ที่มา: everydayhealth
0 ความคิดเห็น: