แคลเซียมและวิตามินดีเป็นส่วนสำคัญสำหรับทุกวัยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นผู้สูงอายุซึ่งจะมีความเสียเป็นโรคกระดูกพรุน โดยผู้หญิงส่วนใหญ่จะบริโภคแคลเซียมอยู่ในปริมาณเฉลี่ย 895 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งถ้าจะให้ดีควรบริโภคแคลเซียมไม่เกิน 1200 มิลลิกรัมต่อวัน
แคลเซียมไม่ได้ลดความเสี่ยงต่อการกระดูกแตกหัก
ไม่มีหลักฐานสนับสนุนความคิดที่ว่าอาหารเสริมแคลเซียมจะช่วยป้องกันกระดูกแตกหัก งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine พบว่าไม่มีหลักฐานว่าการทานอาหารเสริมแคลเซียมทุกันจะช่วยลดอาการกระดูกแตกหักแต่มันจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในไตเพิ่มมากขึ้น
แคลเซียมอาจทำให้คุณเสี่ยงตายเพิ่มขึ้นสองเท่า
ในการศึกษาที่เป็นวงกว้างและระยะยาวจากผู้หญิงชาวสวีเดน นักวิจัยพบว่าผู้ที่บริโภคแคลเซียมมากกว่า 1400 มิลลกิกนัมต่อวันนั้นมีโอกาศเสียชีวิตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งความเสี่ยงในการเสียชีวิตจะเห็นชัดมากในผู้ที่กำลังไดเอ็ตและรับประทานแคลเซียมเม็ดซึ่งทำให้โอกาศตายเพิ่มขึ้นเป็นสองเ่ท่าโดยเปรียบเทียบกับผู้ที่ทานแคลเซียมมากแต่ไม่ได้ทานจากอาหารเสริม
อาหารเสริมแคลเซียมทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ
อวัยวะที่มีความเสี่ยงที่เยอะที่สุดในการทานอาหารเสริมแคลเซียมคือหัวใจของคุณ จากงานวิจัยล่าสุดที่ทำการศึกษาชาวสวีเดนและตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American Medical Association เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพบว่าผู้ชายที่รับประทานแคลเซียมเม็ดแม้ว่าไม่ใช่ผู้หญิงมีโอกาสตายมากขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์จากโรคหัวใจและยังมีการศึกษาอื่นๆ ที่มีผลลัพธ์คล้ายกับในทั้งผู้ชายและผู้หญิง
อาหารเสริมแคลเซียมและนิ่วในไต
งานวิจับชิ้นใหม่ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine พบว่าอาหารเสริมแคลเซียมเพิ่มความเสียงในการเป็นนิ่วในไตมากขึ้น มีการค้นพบที่สนับสนุนในการศึกษาหลายๆ ส่วนซึ่งตีพิมพ์ใน American Journal of Clinical Nutrition
แต่เมื่อเร็วๆ นี้นักวิจัยจาก Hospital Clinico de San Carlos in Madrid, Spain พบว่าอาหารเสริมแคลเซียมไม่ได้ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นนิ่วในไตในผู้หญิงที่ได้รับการรักษาสำหรับโรคกระดูกพรุนแม้ว่าจะมีผู้ป่วยบางส่วนรายงานว่ามีอากรเจ็บที่ไต ยังจำเป็นคงต้องมีการศึกษาเรื่องที่เกี่ยวโยงเพิ่มมากขึ้น
แคลเซียมและธาตุเหล็ก
แคลเซียมนั้นสามารถทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อยลงดังนั้นเราควรชดเชยผลกระทบนี้ด้วยการบริโภคอาหารที่ช่วยให้ดูดซึมมีธาตเหล็กให้ดีขึ้นเช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ และวิตามินซีโดยเฉพาะเมื่อต้องการธาตุเหล็กในปริมาณที่สูง นักวิจัยจาก National Institutes of Health แนะนำว่า ผู้หญิงจะต้องการธาตเหล็กในระหว่างฃ่วงมีประจำเดือน และตั้งครรค์และควรที่จะบริโภคธาตุเหล็กจากแหล่งธรรมาชาติืเท่านั้น
แคลเซียมและโรคท้องผูก
มีงานวิจัยสองสามชิ้นแต่ก็ยังคงน้อยกว่าความต้องการ อาหารเสร็มแคลเซียม คาร์บอเนตสามารถทำให้เกิดอาการท้องผูก
ที่มา: everydayhealth
0 ความคิดเห็น: