3 ข้อแนะนำง่ายๆ ที่จะทำให้น้ำหนักคุณลดลงอย่างรวดเร็ว


1. ทานอาหารที่มีโซเดียมให้น้อยลง
หน้าที่หลักๆ ของโซเดียมในร่างกายคือจะช่วยปรับสมดุลของเหลวในร่างกาย ไตเป็นอวัยวะที่เป็นตัวควบคุมปริมาณโซเดียมในร่างกาย

ถ้าในร่างกายคุณมีโซเดียมมากเกินไป และไตของคุณขับโซเดียมออกไม่หมดจะทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น หัวใจ สมอง ไต เสียการทำงาน โรคความดันเลือดสูงและทำให้คุณ “บวมน้ำ” การลดปริมาณโซเดียมลงจะช่วยลดอาการบวมน้ำและทำให้คุณผอมลงได้เร็ว

read more →

0 ความคิดเห็น:

ดื่มชาดำช่วยลดเบาหวาน


ในประเทศที่มีผู้ดื่มชาดำกันเป็นจำนวนมากจะมีคนป่วยเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 น้อยลง จากการศึกษาการวิเคราห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์ทั้งหมด 50 ประเทศ การศึกษานี้ตีพิมพ์ในวารสาร BMJ Open

คณะนักวิจัยชาวสวิสจาก statistical firm Data Mining International analyzed health data from countries participating in the World Health Organization's World Health Survey พบความสัมพันธ์ระหว่างชาดำกับตัวชี้วัดสุขภาพที่สำคัญซึ่งประกอบไปด้วย โรคทางเดินหายใจ (respiratory diseases), โรคหลอดเลือดและหัวใจ (cardiovascular diseases), โรคติดเชื่อ (infectious diseases) และโรคเบาหวาน (diabetes) โดยพวกเขาพบความสัมพันธ์ที่สูงมากระหว่างการดื่มชาดำกับการลดลงของเบาหวาน แต่ไม่มีผลในการลดลงของความเสี่ยงของตัวชี้วัดสุขภาพอที่สำคัญตัวอื่น

read more →

0 ความคิดเห็น:

การอดนอนอาจเป็นสาเหตุทำให้คุณทานอาหารขยะมากขึ้น


การศึกษากลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นจำนวนไม่มากจากการเลือกรับประทานอาหารของพวกเขาเมื่อไม่ได้นอน

การอดนอนนั้นทำให้คุณอยากทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงในสัดส่วนที่มากขึ้น และเพิ่มอัตราเสี่ยงที่น้ำหนักคุณจะเพิ่มขึ้นในระยะยาว

นักวิจัยชาวสวีเดนได้สอบถามผู้ชายที่มีน้ำหนักปกติ 16 คนเกี่ยวการเลือกทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงและขนม โดยการทดสอบแบ่งเป็นสองช่วงคือ ช่วงแรกให้พวกเขานอนหลับปกติประมาณ 8 ชั่วโมง และช่วงหลังให้พวกเขาไม่ได้นอนทั้งคืน

read more →

0 ความคิดเห็น:

ทานเนื้อแดงเสี่ยงโรคมะเร็งและหัวใจ


ผู้ที่ทานเนื้อแดงในปริมาณมากๆ อาจทำให้อายุสั้นลง ในขณะที่ผู้ที่รับประทานปลากับสัตว์ปีกมากกว่าจะช่วยยืดเวลาออกไป

เนื้อแแดงมีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มอัตราความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ, มะเร็ง และโรคอื่นๆ อีกมาก

ผู้คนเป็นจำนวนมากจะได้รับโปรตีนและไขมันจากแหล่งที่มาหลักคือเนื้อแดง แต่เนื้อแดงมีสวนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือดและหัวใจ, และมะเร็งอีกหลายชนิด

read more →

0 ความคิดเห็น:

HDL cholesterol คืออะไร?


HDL (High Density Lipoprotein) หรือที่เรียกกันว่า ไขมันดี เป็นไขมันที่มีความหนาแน่นสูง HDL ดีกับหลอดเลือดแดงเนื่องจาก ช่วยป้องกันไม่ให้ คอเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์, และ LDL สะสมในหลอดเลือดแดง หากขาด HDL ในเลือด ก็จะทำให้เป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้ และถ้ามีระดับ HDL ในเลือดต่ำ ก็จะเพิ่มโอกาส เพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือ หลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นต้น
read more →

0 ความคิดเห็น:

LDL cholesterol คืออะไร?


คอเลสเตอรอลคืออะไร?
คอเลสเตอรอล (Cholesterol) เป็นไขมันที่มีความจำเป็นสำหรับเซลต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลสมอง เซลประสาท ร่างกายสามารถสังเคราะห์ไขมันนี้ได้เองที่ตับ (ผู้ป่วยโรคตับ หรือ มะเร็ง จึงมีคอเลสเตอรอลต่ำ) และ ได้จากอาหารด้วย อาหารที่มีไขมันคอเลสเตอรอลสูง ได้แก่ อาหารมันๆต่างๆ โดยเฉพาะที่ได้จาก ไขมันสัตว์ เช่น เนื้อติดมัน หมูติดมัน หมูสามชั้น ข้าวมันไก่ ขาหมู เครื่องใน หนังเป็ด หนังไก่ ไข่แดง ไข่ปลา กุ้ง ปลาหมึก หอยนางรม แกงกะทิ เป็นต้น เมื่อไปเจาะเลือดเพื่อตรวจคอเลสเตอรอล ส่วนใหญ่จะเป็นการตรวจ คอเลสเตอรอลรวม (Total cholesterol) แต่ความจริงแล้ว ยังมีคอเลสเตอรอลย่อยๆอีก คือ แอล-ดี-แอล (LDL-Cholesterol) วี-แอล-ดี-แอล (VLDL-Cholesterol) เอช-ดี-แอล (HDL-Cholesterol)

read more →

0 ความคิดเห็น:

5 อันดับอาหารที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ


ลองเปลี่ยนสิ่งที่คุณทานสักสองสามอย่างแล้วจะพบว่ามันมีผลกระทบกับระดับคอเลสเตอรอลเป็นอย่างมาก

คุณอาจกำลังทำลายสุขภาพของคุณเองโดยการทานอาหารทอดหรือเนื้อที่มีไขมันสูง แต่การรับประทานอาหารประเภทที่ดีต้อสุขภาพจะช่วนทำให้ระดับคอเลสเตอรอลของคุณลดลงได้อย่้างแน่นอน ในความเป็นจริงแล้วการไดเอ็ตมีบทบาทในการช่วยป้องกันโรคหัวใจ, โรคหัวใจล้อมเหลวและ
โรคหลอดเลือดสมอง จากข้อมูลของ U.S. National Institute of Health พบว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของคอเลสเตอรอลมากจากการดานอาหารของคุณส่วนที่เหลือมาจากกระบวนการต่างๆ ในร่างกาย

จากการศึกษาของ Samantha Heller, MS, RD, formerly a clinical nutritionist at New York University Langone Medical Center and host of a live show on Sirius Satellite’s station DOCTOR Radio
พบว่าคุณสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้จากลดการทานไขมันไม่ดี (bad fats) ,หลีกเลี่ยงอาหารที่ปลุกด้วยเกลือและอาหารที่มีโซเดียมสูงและ หยุดดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล เช่น น้ำผลไม้กล่อง

คุณอาจจะค่อยๆ ลดอาหารเหล่านี้ลง และ Heller แนะนำให้คุณมุ่งไปที่ 5 อันดับอาหารที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจลดลง

read more →

0 ความคิดเห็น:

6 ความเสี่ยงจากอาหารเสริมแคลเซียม



เมื่อผู้หญิงเลือกทานแคลเซียมและวิตามินดีจากอาหารเสริมแทนที่จากแหล่งธรรมชาติจากงานวิจัยล่าสุดพบว่าพวกเธอจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ, นิ่ว และมีโอกาศท้องผูกเพิ่มมากขึ้น

แคลเซียมและวิตามินดีเป็นส่วนสำคัญสำหรับทุกวัยโดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นผู้สูงอายุซึ่งจะมีความเสียเป็นโรคกระดูกพรุน โดยผู้หญิงส่วนใหญ่จะบริโภคแคลเซียมอยู่ในปริมาณเฉลี่ย 895 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งถ้าจะให้ดีควรบริโภคแคลเซียมไม่เกิน 1200 มิลลิกรัมต่อวัน

read more →

0 ความคิดเห็น:

จะเริ่มต้นกับการวิ่งยังไงดี?



การวิ่งเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการลดน้ำหนัก ถ้าคุณยังไม่เคยวิ่งมาก่อน ให้ลองเริ่มวิ่งช้าๆ แล้วก็ลองไปปรึกษากับคนที่วิ่งเป็นประจำ เผื่อจะได้ความคิดดีๆ กลับมาก็ได้

จากการสำรวจผู้คนจำนวน 6,207 คนพบว่าประมาณ 1 ใน 10 พวกเขาจัดการกับน้ำหนักและลดน้ำหนักด้วยการวิ่งหรือวิ่งเหยาะๆ

การวิ่งทำให้สุขภาพหัวใจดีขึ้นและยังช่วยสลายไขมันได้ แคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญจะขึ้นอยู่กับการจังหวะในการวิ่งของคุณ ถ้าคุณวิ่งด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมงคุณจะเผาผลาญไปได้ประมาณ 100 แคลอรี่


read more →

0 ความคิดเห็น:

การวัดไขมันในร่างกาย


ตาชั่งไม่ใช่เครื่องมือเดียวในการวัดว่าคุณน้ำหนักเกินหรือเปล่า ในบทนี้จะบอกวิธีการวัดไขมันในร่างกาย (body fat) และอะไรคือเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย (percentage of body fat) แบบคร่าวๆ ลองนำมันมาเปรียบเทียบกับน้ำหนักของคุณแล้วลองพิจารณาดูว่าคุณอ้วนหรือเปล่า

ผู้คนส่วนใหญ่จะมองดูแค่น้ำหนักผ่านเครื่องชั่ง แล้วก็พยายามลดน้ำหนักให้ได้สักสองสามกิโลกรัม และนั้นเป็นความคุ้นเคยเดิมๆ และมันวัดได้แค่น้ำหนักอย่างเดียว ยังมีอีกวิธีในการตรวจสอบว่าคุณอ้วนเกินไปหรือเปล่า

ไขมันในร่างกาย (body fat) อันตรายไหม?
ผู้คนส่วนใหญ่เมื่อได้ยินคำว่า “ไขมันในร่างกาย (body fat)” พวกเขาจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่แย่ทันที อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วไขมันมีส่วนช่วยในการไดเอ็ตและมีประโยชน์กับสุขภาพ ซึ่งความสามารถในการจัดเก็บไขมันมีมาตั้งแต่ในบรรพบุรุษของพวกเราซึ่งทำให้พวกเขาสามารถอยู่ร้อนได้ในสภาวะที่ขาดแคลนอาหาร แม้กระทั้งในทุกวันนี้มันก็ยังมีความสำคัญกับกระบวนการทำงานต่างๆ ในร่างกาย เช่น การเก็บรักษาความร้อนในร่างกาย และการป้องกันอวัยวะจากการบาดเจ็บ (protect organs from trauma)

read more →

0 ความคิดเห็น:

10 ข้อแนะนำในการใช้ถุงยางอนามัย



1. ใช้ถุงยางอนามัยชิ้นใหม่เสมอเมื่อมีการสอดใส่
2. ถ้าหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศของคุณยังไม่เปิด ให้ดึงหนังส่วนนั้นลงมาก่อนใส่ถุงยางอนามัย
3. ใส่ถุงยางอนามัยหลังจากอวัยวะเพศแข็งตัวแล้ว และก่อนที่อวัยวะเพศของคุณจะสัมผัสกับส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของคู่นอนคุณ
4. ถ้าถุงยางอนามัยไม่มีช่องว่างสำหรับเก็บน้ำอสุจิ ให้คุณหยิกปลายถุงยางอนามัยออกมาให้มีพื้นที่ประมาณครึ่งนิ้ว เพื่อรองรับน้ำอสุจิ
5. ในขณะที่ดึงปลายถุงยางอนามัยออกมา ให้คุณจับอวัยวะเพศของคุณไว้อย่าให้ม้วนขึ้นเด็ดขาด และเติมสารฆ่าเชื่ออสุจิหรือสารหล่อลื่นที่ด้านนอก

read more →

0 ความคิดเห็น:

12 ขั้นตอนในการจัดการกับน้ำหนักของคุณ



ลองฝึกทำสิ่งเหล่านี้ ทานอาหารดีๆ และออกกำลังกายเป็นประจำการลดน้ำหนักก็จะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณอีกต่อไป

ถ้าน้ำหนักคุณเพิ่งจะลดลงและไม่อยากเห็นตัวเลขบนตาชั่งเด้งกลับขึ้นไปใหม่ แม้ว่าการที่น้ำหนักจะเด้งกลับคืนมาจะรู้สึกว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป ในการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงเมื่อเร็วๆ นี้จากสำนักทะเบียนควบคุมน้ำหนักแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Weight Control Registry) พบว่าการควบคุมน้ำหนักในระยะยาวเป็นไปได้ ถ้าคุณปฏิบัติพฤกรรมต่อไปนี้

และนี่เป็น 12 เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการและผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักและยังคงควบคุมต่อไปได้


read more →

0 ความคิดเห็น:

4 พฤติกรรมแย่ๆ ที่ทำให้โรคเบาหวานของคุณหนักว่าเดิม




หลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่อไปนี้ จะช่วยให้จัดการสภาพร่างกายได้ดีขึ้น เราสามารถจัดการกับโรคเบาหวานได้ถ้าเราหมั่นใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยการไปพบแพทย์ประจำตัวคุณและ หลีกเลี่ยงพฤติกรรม 4 อย่างนี้

1. ดูโทรทัศน์
มีการศึกษาพบว่าการที่เราดูโทรทัศน์ 2 ชั่วโมงเป็นประจำจะทำให้เสี่ยงเป็น*โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์

2 .อดนอน
การอดนอนหรือนอนไม่พอสามารถทำให้คุณเกิดอาการเหงื่อออกกลางคืน (**Night sweats)
ซึ่งทำให้อาการป่วยของคุณแย่ลงเพราะร่างกายคุณชื้นจากเหงื่อและ้คุณจะเหนื่อยหรือ เครียดซึ่งทำให้คุณอยากรับประทานน้ำตาลมากขึ้น

read more →

0 ความคิดเห็น:

ควรดื่มน้ำเท่าไรจึงจะเหมาะสม?



น้ำเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย เพราะน้ำเป็นส่วนช่วยการทำงานทุกอย่างในร่างกาย ในกล้ามเนื้อมีน้ำเป็นส่วนประกอบจำนวนมากและเป็นสิ่งสำคัญในการกระบวนการผลิตพลังงาน ดังนั้นถ้าคุณต้องการออกกำลังกายให้ถึงที่สุด คุณต้องมั่นใจว่าคุณดื่มน้ำเพียงพอ

ไม่มีจำนวนการดื่มน้ำที่แน่นอนในแต่ละขนาดของร่างกาย แต่มีหลักการทั่วไปง่ายๆ คือ ผู้ชายควรดื่มน้ำ 3.78 ลิตรต่อวันและ ผู้หญิงควรดื่ม 2.60 ลิตรต่อวัน แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องดื่มน้ำจำนวนเท่านี้ทุกๆ วันเพราะคุณคงต้องดื่มเครื่องดื่มอย่างอื่นนอกจากน้ำ และในอาหารก็มีน้ำเป็นส่วนประกิบอยู่ด้วย ปัจจัยต่อไปนี้จะเป็นตัวบอกว่าคุณควรดื่มน้ำเท่าไร

read more →

0 ความคิดเห็น:

ระหว่างมีเพศสัมพันธุ์ คุณเผาผลาญได้กี่แคลอรี่?


ผู้คนส่วนใหญ่จะเผาผลาญได้ประมาณ 100 ถึง 200 แคลอรี่จากการมีเพศสัมพันธุ์ แต่ตอนนี้เราจะมาดูว่าในแต่ละกิจกรรมตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเท่าไร

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจินตนาการหาวิธีการเผาผลาญแคลอรี่ทีจะ่สนุกไปกว่าการมีเพศสัมพันธุ์ นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามวัดตัวเลขของแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญในระหว่างการมีเพศสัมพันธุ์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็ยังมีมากเกินกว่าจะสรุปได้ชัดเจน แม้กระนั้นก็ไม่มีคำถามที่ว่า “การมีเพศสัมพันธ์ดีกับสุขภาพจริงหรือ?“ แต่ที่แน่ๆ เรารู้ว่าการเล้าโลมนั้นทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นและ ไม่มีวิธีการใดที่จะเผลผลาญแคลอรี่ได้เท่ากับการทำให้หัวใจของคุถณสูบฉีด


โดยหลักๆ แล้วการมีเพศสัมพัธุ์จะเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 100 ถึง 200 แคลอรี่ แต่ถ้าคุฯเพิ่มช่วงเวลาในการเล้าโลม คุณจะสามารถอัตราการเผาผลาญยิ่งขึ้นและ สิ่งที่แน่นอนคือ การมีเพศสัมพันธุ์ด้วยความพึงพอใจสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการเดินขึ้นบันไดหรือการออกกำลังกายแบบ Pilates

ตอนนี้เรามาดูกันว่าผู้หญิงหนัก 68 กิโลกรัมจะเผาผลาญกี่แคลอรี่ในแต่ละกิจกรรม


read more →

0 ความคิดเห็น: