ควรมีคอเรสเตอรอลเท่าไร ถึงจะเรียกว่าสุขภาพดี




ระดับของคอเรสเตอรอลที่ดีนั้นควรมีค่าเท่าไร และจะทำอย่างไรถึงทำให้ระดับคอเรสเตอรอลของคุณไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้

การรักษาระดับของคอเรสเตอรอลให้อยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง และถ้าคุณมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ คุณยิ่งจำเป็นต้องระวังเรื่องนี้ให้มาก โดยเฉพาะระดับของคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีหรือที่เรียกกันว่า ไขมันเลว (LDL คอเรสเตอรอล)

จำนวนคอเรสเตอรอลบอกอะไรเรา
ระดับของคอเรสเตอรอลสามารถวัดได้ในหน่วยมิลลิกรัม (mg) ของคอเรสเตอรอลต่อเดซิลิตร (dL) ของเลือด หรือก็คือ mg/dL ซึ่งเป็นหน่วยที่ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ รวมถึงในประเทศไทยด้วย แต่ในประเทศแคนนาดาและประเทศในยุโรปส่วนใหญ่จะใช้หน่วยนับอีกอย่างหนึ่งคือ มิลลิโมล (mmol) ต่อลิตร (L) ของเลือดหรือก็คือ mmol/L คุณสามารถดูปัจจัยเสี่ยงได้จากตารางด้านล่าง ถ้าคุณได้ตรวจระดับคอเรสเตอรอลในเลือดมาแล้ว
  
จำนวนคอเรสเตอรอลทั้งหมด
เกณฑ์
ต่ำกว่า 200 mg/dL
พอดี
200-239 mg/dL
สูงคาบเส้น
240 mg/dL หรือ สูงกว่า
สูง

  
LDL คอเรสเตอรอล
เกณฑ์
ต่ำกว่า 70 mg/dL
เป้าหมายสำหรับคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูง
ต่ำกว่า 100 mg/dL
เป้าหมายสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ
100-129 mg/dL
พอดี
130-159 mg/dL
สูงคาบเส้น
160-189 mg/dL
สูง
190 หรือ สูงกว่า mg/dL
สูงมาก
(เพิ่มเติม: LDL cholesterol คืออะไร?) 

HDL คอเรสเตอรอล
เกณฑ์
ต่ำกว่า 40 mg/dL (ผู้ชาย)
ต่ำว่า 50 mg/dL (ผู้หญิง)
แย่
40-49 mg/dL (ผู้ชาย)
50-59 mg/dL (ผู้หญิง)
ดี
60 mg/dL หรือ สูงกว่า
ดีมาก
(เพิ่มเติม: HDL cholesterol คืออะไร?

ไตรกลีเซอไรด์
เกณฑ์
ต่ำกว่า 150 mg/dL
พอดี
150-199 mg/dL
สูงคาบเส้น
200-499 mg/dL
สูง
500 mg/dL หรือ สูงกว่า
สูงมาก

สมาคมรคหัวใจอเมริกา หรือ The American Heart Association (AHA) แนะนำว่าระดับของไตรกลีเซอไลด์ที่ 100 mg/L หรือต่ำกว่าจะเป็นผลดีมาก ทางสมาคมโรคหัวใจอเมริกายังกล่าวอีกว่าระดับของคอเรสเตอรอลที่ดีนั้นจะช่วยให้หัวใจของคุณมีสุขภาพดีขึ้น อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ทานยาเพื่อทำให้ระดับของคอเรสเตอรอลลงมาอยู่ในระดับนั้น แต่ให้พยายามลดระดับของไตรกลีเซอไลด์โดยการปรับการใช้ชีวิตของคุณ เช่น การทานอาหาร, ลดน้ำหนัก, และกิจกรรมออกกำลังกาย

เป้าหมายระดับของ LDL จะแตกต่างกันตามปัจจัยของแต่ละคน
ระดับของคอเรสเตอรอลที่ไม่ดีหรือ LDL คอเรสเตอรอลเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ ดังนั้นหลักๆ แล้วคุณควรโฟกัสไปที่การลดระดับของ LDL เป้าหมายของ LDL มีได้หลายค่า ซึ่งขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจ

ผู้คนส่วนใหญ่ควรต้องควรตั้งเป้าหมายของ LDL ไว้ที่ต่ำกว่า 130 mg/dL แต่ถ้าคุณมีปัจจัยอื่นที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ เป้าหมาย LDL ควรต่ำกว่า 100 mg/dL ถ้าคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคหัวใจ บางทีคุณจำเป็นต้องทำให้ระดับของ LDL ต่ำกว่า 70 mg/dL โดยทั่วไปแล้วยิ่งระดับของ LDL ต่ำยิ่งดี ไม่มีหลักฐานที่บอกว่าถ้าระดับ LDL ต่ำมากจะส่งผลเสียต่อร่างกาย

(เพิ่มเติม: เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย: ผู้หญิง)





สิ่งที่บอกว่าคุณมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจสูง
- เคยมีอาการภาวะหัวใจวาย
- การอุดตันของหลอดเลือดแดงที่ลำคอ (โรคหลอดเลือดสมองคาโรติด)
- การอุดตันของหลอดเลือดแดงที่แขนหรือขา (โรคหลอดเลือดส่วนปลาย)
- เบาหวาน

ปัจจัยเพิ่มเพิ่มเติมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคหัวใจ
- สูบบุหรี่้
- ความดันในเลือดสูง
- ระดับของ HDL คอเรสเตอรอลหรือไขมันดีต่ำ
- คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ
- ผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 45 ปี และในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 55 ปี

ประเภทของคอเรสเตอรอล
LDL คอเรสเตอรอลหรือไขมันเลวที่สะสมที่ผนังหลอดเลือดแดงจะส่งผลให้เกิดโรคหัวใจล้มเหลวได้ ยิ่งมีระดับของ LDL คอเรสเตอรอลสูงยิ้งมีโอกาสเป็นสูงยิ่งขึ้น ส่วน HDL คอเรสเตอรอลหรือที่รู้จักในชื่อไขมันดี ก็เพราะว่ามันสามารถช่วยป้องกันการอุดตันในหลอดเลือดแดง และถ้ายิ่งมี HDL คอเรสเตอรอลสูง ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจก็ยิ่งน้อยลง

การทดสอบเลือดเพราะตรวจหาระดับคอเรสเตอรอลจะได้ทั้งหมด 4 อย่างได้แก่
- คอเรสเตอรอลทั้งหมด
- HDL คอเรสเตอรอล
- LDL คอเราเตอรอล
- ไตรกลีเซอร์ไรด์

(เพิ่มเติม: เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย: ผู้ชาย)

คุณสามารถคำนวณหาค่าใดค่าหนึ่งได้จากสมการคำนวณคอเรสเตอรอล ดังนี้

คอเรสเตอรอลทั้งหมด = HDL + LDL + (ไตรกลีเซอร์ไรด์ / 5)

เพื่อให้การตรวจได้ผลที่แม่นยำที่สุด ควรงดทานอาหารและเครื่องดื่มทุกอย่างประมาณ 9 ถึง 12 ชั่วโมงก่อนทำการเจาะเก็บตัวอย่างเลือด

(เพิ่มเติม: ควรทานกี่แคลอรี่เพื่อลดน้ำหนัก)

ที่มา: mayoclinic
ที่มารูปภาพ: wilsondisease

Author

Written by Admin

สนใจลงโฆษณาติดต่อ eimebox@gmail.com

ปรึกษาเกี่ยวกับการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพได้ที่เพจ

Everyday I'm Exercising

0 ความคิดเห็น: